วันที่ (11 มิ.ย. 60) นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมพลตรี วิชาญ สุขสง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส นายสมหวัง เรืองเพ็ง ปลัดจังหวัดนราธิวาส นายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก นายอภิเชษฐ์ เจ๊ะอูมา รองนายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก ร่วมรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อเรียกร้องจากประธานชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก เจ้าของท่าจุดผ่อนปรนริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก และท่าข้ามไม่ถูกต้องตามกฎหมายในพื้นที่ตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ณ ห้องประชุม ดร.เจษฎา ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
ทั้งนี้ในที่ประชุม นายไพรัตน์ บินมามะ ประธานชุมชนท่าชมพู่ ได้ยื่นเอกสารข้อเรียกร้องใน 4 ข้อ เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาประกอบด้วย ขอให้ฝ่ายความมั่นคงได้โปรดเปิดท่าข้ามที่มีอยู่ในปัจจุบัน จำนวน 5 ท่า ประกอบด้วย 1.ท่ากอไผ่ ท่าโรงเลื่อย ท่าโต๊ะแว ท่าเจ๊ะกาเซ็ง และท่าชมพู่ พร้อมไปกับจุดผ่อนปรนท่าประปา ซึ่งเป็นท่าถูกกฎหมายตามปกติ เพื่อให้ทุกคนได้ประกอบอาชีพ ไปเรียนหนังสือ เดินทางท่องเที่ยว และสัญจรทางเรือ เพื่อเดินทางเข้าออกสุไหงโก-ลก-รันตูปัน ยังตามปกติ , 2.หากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเปิดท่าข้ามทั้งหมดแล้ว ทุกชมชนจะจัดชาวบ้านในชุมชนมาร่วมเป็นจิตอาสาช่วยดูแล ตรวจตรา สอดส่อง การเดินทางเข้าออก ณ จุดผ่อนปรน และท่าข้ามของทุกชุมชน จุดละ 2 คน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาปฏิบัติงานตลอดเวลา , 3.ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศที่จะเดินทางเข้าออก ณ ท่าข้ามริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนวางไว้ ณ จุดผ่อนปรน และท่าข้ามนั้นๆทุกครั้ง เพื่อให้สะดวกต่อการตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้าออกในพื้นที่ดังกล่าว , 4.ขอให้พิจารณาตั้งท่าข้ามที่เหลืออีก 5 จุด เป็นจุดผ่อนปรนที่ถูกกฏหมาย โดยขอยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่มีการลักลอบเปิดท่าข้ามที่อยู่นอกเหนือจากนี้อย่างเด็ดขาด พร้อมเสนอให้ตั้งคณะกรรมการจุดผ่อนปรนริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ที่มีนายอำเภอเป็นประธาน นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก ประธานชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก และเจ้าของท่าเรือทั้งหมดเป็นคณะกรรมการ เพื่อจะได้ร่วมกันตรวจสอบและควบคุมให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งในส่วนของประธานชุมชน ประชาชนในชุมชน และเจ้าของท่าข้ามทุกแห่งพร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนมาตรการการรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดนในทุกรูปแบบ เพื่อป้องกันการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
ทั้งนี้เบื้องต้นอยากข้อความกรุณาให้เปิดท่าข้าม จำนวน 5 ท่า ในห้วงนี้ไปก่อน เพราะเป็นเดือนรอมฎอนที่ต่อเนื่องไปถึงเทศกาลวันฮารีรายอ ที่ประชาชนต้องหารายได้เพื่อใช้จ่ายในเทศกาลสำคัญนี้ ประกอบกับแรงงานไทยในประเทศมาเลเซีย ก็เตรียมเดินทางกลับเข้ามาเฉลิมฉลองในเทศกาลวันฮารีรายอด้วย
ด้านพลตรี วิชาญ สุขสง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่า จากข้อมูลด้านการข่าวที่ผ่านมาพบว่าคนผู้ก่อความไม่สงบ จะใช้ช่องทางบริเวณด่านชายแดนในพื้นที่รอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นเส้นทางหลบหนี โดยมีสถิติด้านการข่าวที่ชัดเจน ประกอบกับปัจจุบันจังหวัดนราธิวาสมีจุดผ่อนปรนถูกกฎหมายในพื้นที่ จำนวน 7 จุด คือ ที่ตำบลกายูคละ และตำบลฆอเลาะ อำเภอแว้ง จำนวน 2 จุด ตำบลเกาะสะท้อน และตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ จำนวน 3 จุด ตำบลมูโนะ และตำบลสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จำนวน 2 จุด ในส่วนที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก คือ จุดผ่อนปรนท่าประปา ส่วนท่าข้ามที่เหลืออีก 6 จุด คือ ท่าข้ามที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมาย
ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินมาตรการรักษาความมั่นคงชายแดน และภาครวมของความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ จึงจำเป็นต้องจัดระเบียบสังคมและควบคุมพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อย่างไรก็ตามก็ยอมรับว่าแนวทางดังกล่าวได้ส่งผลกระทบ และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและระบบเศรษฐกิจในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก เป็นวงกว้าง ซึ่งจากข้อเรียกร้องที่ได้รับจากผู้ได้รับผลกระทบในวันนี้ จะนำส่งให้ผู้บังคับบัญชาได้ร่วมพิจารณาเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาต่อไป
ส่วนนายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ภาครัฐให้ความสำคัญกับทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับบริบทในพื้นที่ โดยเฉพาะด้านความมั่นคง และการพัฒนา เพื่อให้ประชาชนได้มีอาชีพ มีรายได้ และดำเนินชีวิตตามวิถีชุมชนชายแดนใต้ แต่การดำเนินการในเรื่องนี้ต้องคำนึงถึงกรอบของกฎหมายเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยควบคู่ไปด้วย ดังนั้นข้อสรุปตามแนวทางที่มีการเรียกร้องมา จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเป็นไปในรูปแบบใด เพราะมาตรการการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ตามแนวชายแดนของจังหวัดนราธิวาสเกี่ยวพันกับหลายภาคส่วน ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้บังคับบัญชาในทุกระดับด้วย แต่ยืนยันจะเร่งดำเนินการในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด